Thursday, May 29, 2014

“Nike Magista” รองเท้าของนักฟุตบอลสายคอนโทรล


Nike-Magista-Reaction

สวัสดีกันอีกครั้งพ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย :-D
ในขณะที่ช่วงนี้หลายๆคนกำลังอิ่มเอมกับรองเท้าฟุตบอล Collection ใหม่ของทางฝั่ง Nike และ Adidas ที่เร่งออกสีแจ่มๆ สดใสๆ เพื่อครองใจคอบอลทั่วโลก…ผมเชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายๆคนที่รอคอยการมาของ รองเท้าฟุตบอลสุดเก๋ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันแสนล้ำ อย่างเช่น “Nike Magista” รองเท้าของนักฟุตบอลสายคอนโทรล เน้นหล่อ เน้นเชิง ที่ใส่แล้วรับรองว่า โดดเด่น ไม่แพ้รองเท้าสายสปีดหรือเพาเวอร์คู่อื่นๆอย่างแน่นอน :-D
เพื่อนๆน่าจะได้ยินกระแสมากมายเกี่ยวกับรองเท้าฟุตบอลคู่นี้มาแล้วไม่มากก็น้อยใช่มั๊ยละครับ? ;-) …แต่วันนี้…ผมจะมานำเสนอแบบชัดๆ จาก คนที่มีโอกาสได้ลองของจริง อย่างพี่่ Bryan (จากเว็บ SoccerCleats101) ของเราที่จะบอกเล่าประสบการณ์หลังจากที่ได้สัมผัสและสวมใส่ Nike Magista คู่นี้ให้ได้อ่านกัน และเพื่อไม่ให้มันยืดยาวไปมากกว่านี้ เรามาอ่านรีวิวไทยๆ เข้าใจง่ายๆของ Magista คู่นี้ กันได้เลยคร้าาาบบบบบ :-D
สำหรับเพื่อนๆที่อยากอ่านข้อมูลเบื้องต้นย้อนหลังของ Nike Magista สามารถย้อนไป อ่านที่นี่ ได้เลยครับ :-)
ความสบายในการสวมใส่
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละครับว่า…ความสบายของการสวมใส่ของ Nike Magista คู่นี้นั้นมันช่าง “ยอดเยี่ยมเกินจินตนาการ” ที่ผมได้ฝันเอาไว้เสียเหลือเกิน ต้องขอชื่นชม Nike จริงๆที่สร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างนี้ออกมา ในช่วงเวลาที่มันใช่ ด้วยการนำเทคโนโลยีการถักทอสุดล้ำอย่าง Nike Flyknit ซึ่งถูกนำไปใช้บ่อยๆกับรองเท้าวิ่งของ Nike เองในช่วงหลายปีหลังมานี้ ด้วยเหตุนี้เอง ก็คงจะไม่เป็นการยากจนเกินไปนักที่ Nike จะนำเทคโนโลยีเจ๋งๆแบบนี้มาใช้ในรองเท้าฟุตบอลบ้างอะไรบ้าง ;-)
เมื่อทำการสวมใส่รองเท้าคู่นี้เข้าไป ผมสามารถรู้สึกได้ถึง “ความนุ่มสบาย สไตล์รองเท้าราคาแพง” ;-) ได้อย่างทันที (ถ้ารองเท้าราคาแพง แต่ใส่แล้วระคายเคืองนี่ก็ถือว่าน่าผิดหวังนะ) ในส่วนของ ปลอกข้อเท้า (Dynamic Collar) ที่มาพร้อมกับตัวรองเท้าและถูกถักทอยาวครอบคลุมไปเท่าทั้งคู่ก็ให้ความรู้สึกที่ ยืดหยุ่นและกระชับระดับท็อปคลาส เลยทีเดียว… ตัว upper เองก็มีความนุ่ม สวมใส่สบาย ให้ความรู้สึกเหมือนสวมใส่ถุงเท้าและสามารถปรับเข้ากับรูปเท้าของผมได้อย่างน่าอัศจรรย์เพียงแค่ครั้งแรกของการสวมใส่… แต่ถึงอย่างไรก็ตาาม! จะสบายยังไงเพื่อนๆก็ยังคงต้องใส่ถุงเท้าฟุตบอลกันเหมือนเดิมนะจ๊ะ! ;-) (นี่เป็นคำถามที่หลายๆคนถามผมมา ฉนั้นนี่ก็เป็นการยินยันเลยว่า ยังไงก็ต้องใส่ถุงเท้าเหมือนเดิมนั่นแหละครับ)
Nike-Magista-Review

และสำหรับคนที่ยังข้องใจว่า “แล้วรองเท้ามันจะสวมใส่ยากหรือเปล่าเนี่ย?” :-?
งั้นผมอยากให้ดู VDO ข้างล่างนี้ได้เลยครับ ว่าจริงๆแล้วมันง่ายดายขนาดไหน :-D
Fitting และไซส์ ของรองเท้า เป็นยังไงบ้าง?
ความสบาย กับ รูปทรงของรองเท้าเมื่อทำการสวมใส่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องแยกให้ออกนะครับว่าเป็นคนละเรื่องกัน เพราะว่า แต่ละคนก็มีรูปทรงของรองเท้าที่ไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน บางคนเท้ากว้าง บางคนเท้าเรียว ก็ว่ากันไป…
สำหรับเจ้า Magista คู่นี้ ส่วนตัวแล้วผมได้มีโอกาสลองแบบ ตรงไซส์” ก็พบว่า Magista นั้น สวมใส่ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะเลยทีเดียว และคิดว่าตัวรองเท้าเอง น่าจะเหมาะกับคนที่มีหน้าเท้าปานกลางค่อนไปทางกว้าง
ในช่วงแรกของการสวมใส่นั้น ก็เหมือนๆกับรองเท้าทั่วไปที่จำเป็นจะต้องให้เวลาสักนิดเพื่อให้รองเท้าปรับเข้ากับรูปเท้าของเรา และ Magista เองก็ดูเหมือนจะทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีมากๆ ฉนั้นแล้ว ไม่ว่าเพื่อนๆจะ เท้าบวมเท้าบานเป็นจานเปล ก็น่าจะสามารถสวมใส่รองเท้าคู่นี้ได้อย่างไม่มีปัญหากวนใจ อะไรอย่างแน่นอน ;-) (อันนี้ต้องยกเครดิตให้กับ upper แบบ Flyknit ไปแบบเต็มๆ เพราะมันแจ่มจริง ‘ไรจริง)
และที่สำคัญในเรื่องของเชือกรองเท้านั้น Nike Magista ดูๆไปก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับรองเท้าของ Lotto ที่มีชื่อว่า “Lotto Zhero Gravity” เพราะเป็นรองเท้าที่ไม่มีลิ้นเหมือนกัน แต่เจ้า Magista นั้นให้ความรู้สึกที่ “เหนือชั้นกว่า” เพราะสามารถสวมใส่และผูกเชือกให้ความกระชับในแบบที่แต่ละคนต้องการได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องของ upper หรือช่องว่างที่จะเกิดขึ้นภายใน เหมือนพวกรองเท้าหนังสังเคราะห์ทั่วๆไปในท้องตลาด เพราะ upper แบบ Flyknit นั้นจะ โอบรัดเท้าของเพื่อนๆราวกับงูเหลือมที่หิวโหย โอบรัดเหยื่อแบบแนบชิดสนิทสนม นั่นเอง … (เปรียบเทียบได้มั่วซั่วมาก 555 :-D )
Nike-Magista-Forefoot

Nike-Magista-NIKESKIN-Upper

Nike-Magista-Upper-Material

Flyknit – หัวใจของ Nike Magista คู่นี้
อยากที่บอกไปแล้วว่า Flyknit นั้นเกิดขึ้นจากการถักทอด้วยเส้นใยพิเศษ แต่มีความบางและนุ่มระดับโลก จึงไม่น่าแปลกที่ใครต่อใครจะสงสัยว่า “ความทนทานมันจะเป็นอย่างไรเมื่อเอามาใช้กับรองเท้าฟุตบอล?? ;-? ” แต่เชื่อเถอะครับว่าจริงๆแล้วมันเหนียวของเจ้า Flyknit อันนี้ ไม่ต่างจาก NIKESKIN บางๆของ Hypervenom แม้แต่น้อย :-) ใน เรื่องของการสัมผัสบอล นั้น ถ้าเพื่อนๆสังเกตุดีๆ upper ของรองเท้าจะถูกถักทอมาเป็นพิเศษ ทำให้เกิดเป็นพื้นผิวนูนเล็กๆมากมายเรียงรายอยู่บน upper ของรองเท้า ซึ่งรอยเย็บเล็กๆ (stiching pattern) เหล่านั้นมีความกว้างมากกว่ารอยเย็บที่เราเห็นบนรองเท้าหนังสังเคราะห์หรือหนังแท้ทั่วๆไปเสียอีก โดยรอยเย็บเหล่านี้เองจะทำให้ช่วยในการ “ซึบซับ” แรงตกกระทบของการปะทะระหว่างเท้ากับลูกฟุตบอลในขณะส่งหรือยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้ความรู้สึกในการสวมใส่นั้นเกิดความระคายเคืองแต่อย่างใด เพราะภายใต้รอยเย็บเหล่านั้นก็ยังคงเป็น Flyknit ห่อหุ้มเท้าเราอยู่เหมือนเดิม ซึ่งส่วนตัวแล้วผมมองว่า Magista คู่นี้นั้น ใส่แล้วให้ความรู้สึกปลอดภัย มั่นใจในเรื่องของการถูกปะทะได้ดีในระดับนึงเลยทีเดียว :-) (แต่เอาเข้าจริงๆโดนเหยียบก็คงจะเจ็บเหมือนเดิม)
เรื่องของการควบคุมบอล ก็สามารถทำได้อย่างมั่นใจ ไหลไปตามการเคลื่อนไหวของเท้าอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับน้ำที่ไหลผ่านหินในอ่างน้ำตกเล็กๆ โฟลวแบบเนียนๆไปกับก้อนหินประดับ ให้ความรู้สึกในการสัมผัสที่ดีถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพคือสัมผัสที่ได้ “จะเหมือนเราเดาะหรือเลี้ยงลูกเทนนิส” ยังไงยังงั้นเลยละครับ (คิดสภาพลูกเทนนิสที่มีขนสั้นๆฟูๆ เวลาเดาะแล้วมันจะ หยึยๆเบาๆ แต่แน่นๆอะ…จะคิดออกมั๊ยเนี่ย?
ว่าแล้วก็ไปลองเอาลูกเทนนิสมาลองเดาะเองเลยก็แล้วกัน 555 :-D )
ในเรื่องของการยิงนั้น ส่วนตัวแล้วผมอาจจะรู้สึกไม่ประทับใจเท่าไหร่ เพราะมันให้ความรู้สึกที่ “แป้กๆ” เหมือนเรายิงบอลไม่เต็มแรง แต่นั่นอาจเป็นเพราะความนุ่มของรองเท้าที่สร้างความรู้สึกแบบนั้นให้เกิดขึ้น… ซึ่งผมเองก็พอจะเข้าใจได้นะ เพราะ Nike Magista นั้น จะว่าไปแล้วก็ดูเหมือนจะไม่ได้เน้นไปในเรื่องของการยิงเท่าไหร่ เพราะคาแรกเตอร์ของรองเท้าจะออกไปทางสายผู้เล่นแบบ playmaker หรือ กองกลาง ที่เน้นเคาะเน้นจ่าย มากกว่าที่จะจบสกอร์ด้วยตัวเอง ผมว่าถ้าเป็นพวกปีกหรือกองหน้ารองเท้าหนังสังเคราะห์จะให้ความรู้สึกในการยิงบอลที่ดีกว่า แน่นกว่า รองเท้าคู่นี้อย่างแน่นอนครับ… แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าผิดหวังอะไร เพราะรองเท้าคู่นี้ดูเหมือนจะสร้างมาเพื่อ “คนที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ” มากกว่าให้ผู้เล่นทั่วๆไปนะผมว่า ;-)
Nike-Magista-Collar

Magista-mid-cut-collar

Magista-Heel

ปลอกหุ้มข้อเท้า (Dynamic Mid Cut Collar)
นี่คือความพิเศษของเจ้า Nike Magista คู่นี้ ที่สามารถสร้างความโดดเด่นและเป็นที่สนใจของนักฟุตบอลทั่วโลก ซึ่งเจ้าDynamic Collar นี้จะห่อหุ้มขึ้นมาถึงบริเวณข้อเท้า ส่งผลให้ความรู้สึกในการเคลื่อนไหวนั้น “กระชับ มั่นใจ พวยพุ่งฉับไว ไปในทิศทางที่ต้องการ” เพราะปลอกหุ้มข้อเท้าจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ของการเคลื่อนไหวระหว่าง เท้า ข้อเท้า และร่างกาย ได้อยากเนียนๆ เช่น เมื่อเราทำการหมุนตัวอย่างรวดเร็ว เราก็จะรู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วระหว่างร่างกายและรองเท้าในขณะเดียวกัน…ถ้าใครเคยใส่รองเท้าที่ไม่กระชับบริเวณข้อเท้าหรือเอ็นร้อยหวาย เมื่อทำการวิ่งหรือหมุนจะรู้สึกได้ถึงความไม่มั่นใจเท่าไหร่ ใช่มั๊ยละครับ? แต่ความรู้สึกนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับคนที่สวมใส่ Nike Magista คู่นี้อย่างแน่นอน! :-D
แล้วมันจะยืดเหมือนถุงเท้าหรือเปล่าละเนี่ย??? :-?
อืมม…อันนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่น่าติดตามต่อไปเพราะในตอนนี้รองเท้าก็ยังไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และยังไม่เคยมีใครได้ใช้งานนานๆเลยสักคน…แต่ผมเชื่อว่า Nike เองน่าจะคิดถึงตรงจุดนี้เอาไว้บ้างแล้ว และถ้าพิจารณาจากวัสดุ Flyknit ที่ถูกใช้ในรองเท้าวิ่งด้วยแล้วละก็ ผมว่า ปัญหาการยืดย้วยไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆอย่างแน่อนอนครับ :-) (แต่อันนี้ก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปละนะ)
รองเท้าคู่นี้เหมาะกับใคร?
์Nike Magista อาจจะไม่ได้เหมาะกับผู้เล่นทุกตำแหน่งในสนาม เพราะตัวรองเท้าเองเน้นในเรื่องของการสัมผัส และควบคุมบอล มากกว่าที่จะเน้นกระชากลากถู ยิงงูยิงนกไปเรื่อย (ซึ่งอาจจะเป็นสไตล์ที่หลายๆคนโปรดปราน) ซึ่งนั่นก็หมายความว่า รองเท้าคู่นี้น่าจะเหมาะกับผู้เล่นที่มีสไตล์แบบพรีเซนเตอร์หลักอย่าง Andres Iniesta มากกว่าที่จะเป็นแบบ Messi หรือ Ronaldo เพราะรองเท้าเน้นความเป็นธรรมชาติในการเคลื่อนไหว ขยับ จับจ่ายบอล มากกว่าที่จะเน้น เร็ว แรง แซงกองหลัง อะไรประมาณนั้นครับ ;-)
Magista-mid-collar-cut

Nike-Magista-Traction1

Nike-Magista-Soleplate-+-Stud-Configuration

ชุดพื้นและการยึดเกาะ
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ และหลายๆคนอาจจะไม่ได้สังเกตุนักนั่นก็คือ soleplate หรือชุดพื้นที่มากับ Nike Magista คู่นี้ (เพราะทุกคนมัวแต่ไปสนใจรูปลักษณ์ภายนอกของรองเท้ากันหมด ;-) )
จากการทดสอบบนสนามหญ้าเทียม และสนามหญ้าจริง (ที่ออกไปทางแห้งและแข็งนิดๆ) พบว่ารองเท้า Nike Magista นั้น มีการยึดเกาะที่น่าประทับใจ การจัดวางของปุ่มให้ความมั่นใจในการยืน วิ่ง หรือยิงได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่รู้สึกถึงแรงกดที่เกิดจากปุ่มแต่อย่างใด
โดยชุดพื้นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาแบบ 360องศา (360° rotational traction system)  ประกอบไปด้วย ปุ่มกลมและวัสดุพลาสติก Pebax / Nylon ที่มีความยืดหยุ่นสูงและน้ำหนักเบากว่าพลาสติกทั่วไป ถูกวางและเชื่อมต่อกันในตำแหน่งที่มีการเคลื่อนไหวมากเป็นพิเศษ (วัสดุสีดำที่เห็นในรูป) ที่สามารถช่วยสร้างความรู้สึกในการตอบสนองที่รวดเร็ว ว่องไว ได้เป็นอย่างดี โดยที่ผมไม่มีอะไรจะคอมเม้นต์มากมายนัก เพราะมันก็ให้ความรู้สึกที่ดีอย่างที่ว่าจริงๆ! :-D
แล้วถ้าเปรียบเทียบกับ Hypervenom ละ??
ถ้าจะให้ยกรองเท้าสักคู่มาเปรียบเทียบ กับ Nike Magista คู่นี้ ดูเหมือนว่า รองเท้าที่น่าจะเอามาเทียบกันได้นั้นก็คือ Nike Hypervenom นั่นเอง…เนื่องจากลักษณะของ upper และรูปทรงของรองเท้ามีความใกล้เคียงกัน มี texture ที่สร้างผิวสัมผัสในลักษณะคล้ายๆกัน… แต่จากการทดสอบนั้นผมพบว่า Nike Magista นั้นให้ความรู้สึกที่ต่างจาก Hypervenom อยู่พอสมควร เพราะ Magista ให้ความรู้สึกในการสัมผัสบอลที่เป็นธรรมชาติกว่า เลี้ยงบอลได้เชื่องเท้าและลื่นไหลกว่า แต่ในขณะที่ Hypervenom นั้น ให้ความรู้สึกที่ “ดีกว่ามาก เมื่อทำการยิง หรือวิ่งกระชากไปมา” และรูปลักษณ์ของ Hypervenom เองที่ดูเหมือนจะไเน้นปทางสายจู่โจมมากกว่าเน้นหล่อ หมุนวนอยู่ตรงกลางสนามครับ ;-)
IMAG2425

จุดที่น่าสังเกตุ
“ถุงเท้า เมื่อนำมาใส่ซ้ำโดยไม่ซักย่อมมีกลิ่น ฉันใดก็ฉันนั้น”…และ Magista ก็ดูเหมือนจะมีปัญหาเดียวกัน เพราะหลังจากที่พี่ Bryan ของเราได้ทำการทดลองสวมใส่เป็นเวลาติดต่อกันเกือบ 2 สัปดาห์ ทำให้พบว่า ปัญหาเรื่องกลิ่น เกิดขึ้นกับ Magista ไม่ต่างกับถุงเท้าฟุตบอลธรรมดาๆที่สวมใส่เอาซะเลย! หรือจะต้องซักเฉพาะตัวปลอกหุ้มข้อเท้าทุกๆครั้งหลังการใช้งานนะเนี่ย? เพราะจะซักทั้งรองเท้ามันก็ยังไงๆชอบกล :-? ก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามกันต่อไปครับสำหรับปัญหานี้ (ซึ่งสำคัญอยู่นะ):-D
สรุปภาพรวมของ Nike Magista
จุดเด่น : รองเท้าฟุตบอลคู่แรกที่นำเทคโนโลยี Flyknit เข้ามาผสมผสานเป็น upper และยาวไปจนหุ้มข้อ เป็นรองเท้าที่สวมใส่สบาย แนบชิดกับเท้าอย่างเป็นธรรมชาติ
หมวดหมู่รองเท้า : ยังไม่มีการประกาศแน่ชัดจากทาง Nike ว่า Magista อยู่ในหทมวดหมู่ไหน…แต่คิดว่าน่าจะเป็นสายคอนโทรลนะครับ
น้ำหนัก : 7.2 ออนซ์ หรือประมาณ 205 กรัม โดยประมาณ ซึ่งถือว่าค่อนข้างเบา
ซื้อดีไหม? : ถ้าเงินถึง ถูกชะตา ถูกสไตล์ จัดสักคู่ก็คงจะไม่น่าเกลียดอะไรครับ แต่สำคัญเรื่องสไตล์การเล่นส่วนตัวด้วย เพราะจากการทดสอบนั้น ก็บอกได้จริงๆว่าอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน ทุกตำแหน่งครับ… และถ้าคิดว่ามันแพงเกินไป (ซึ่งแพงแน่ๆ) ผมแนะนำให้จัด CTR360 เอาไว้ในครอบครองก่อนจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ (แถมราคาถูกลงมากแล้วด้วย)… ลองเข้าไปชมสินค้าที่ CR7 Football Shop พันธมิตรผู้ใจดีของเราดูนะครับผม อัพเดทเรื่อยๆ ภาพถ่ายสวยงาม ทันสมัยฝุดๆ
ตำแหน่งผู้เล่นที่ควรสวมใส่ : เหมาะที่สุดกับผู้เล่นสไตล์ ตัวกลางหรือ playmaker ที่สร้างสรรค์เกม หรือเปิดงามๆจากกลางสนามผ่านแดนหลังของคู่ต่อสู้ คู่นี้ แจ่มแน่นอน! :-D
และนี่ก็คือทั้งหมดของการรีวิว Nike Magista ในแบบที่อ่านง่ายๆ เพลินๆ เบาสมองคร้าาาบ หวังว่าทุกคนจะชอบนะ :-D
ทิ้งทวนก่อนจบเกี่ยวกับผม (เจ้าของ Blog แห่งนี้) >>> ช่วงนี้ผมอาจจะอัพเดทเรื่องราวของการรีวิว หรือบทความน้อยไปนิด เพราะติดภารกิจหลายอย่างจริงๆครับ แต่ยังไงถ้ามีเวลาว่างก็จะพยายามทำให้สม่ำเสมอมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหวังเป็นลึกๆว่าอยากจะพัฒนารูปแบบของ Blog รวมถึงช่องทางใหม่ๆให้เพือนๆได้ติดตาม และสนุกกับข้อมูลเหล่านี้มากขึ้น ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับปรุงและพัฒนากันพอสมควร…แต่ยังไงซะก็ขอให้เพื่อนๆติดตามและให้กำลังใจกันต่อไปนะครับ ถ้ารู้สึกว่า มันชอบ มันใช่ โดนใจ กดไลค์ กดแชร์แบ่งปันกันไป ก็เป็นอีกกำลังใจให้ผมเดินหน้าต่อไปแล้วละคร้าาบ :-D
ขอบคุณมากๆครับสำหรับการติดตาม
สวัสดีครับ,
:-)

 Credit by : http://thfootballbootsreview.com/

No comments:

Post a Comment